“ปังเว้ย...เฮ้ย!!!”….ขนมอารมณ์กวน ธุรกิจ 3 หนุ่มขอมุ่งมั่นทำเบเกอรี่
การตั้งชื่อแบรนด์สินค้าให้จดจำง่าย สามารถจำได้ หลังฟังเพียงครั้งเดียว ถือว่าโอกาสการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้ามีสูงเลยทีเดียว อย่างร้าน “ปังเว้ย...เฮ้ย!!!” แค่ชื่อก็สื่อถึงอารมณ์กวนๆ แฝงไปด้วยรอยยิ้ม ของเจ้าของร้านได้เป็นอย่างดี เพราะร้านนี้เขาตั้งใจให้ชื่อจดจำง่าย และสื่อถึงความเป็นตัวตนของผู้ชายที่ทำเบเกอรี่ให้มากที่สุด
จากสูตรขนมปังรุ่นคุณพ่อ ที่เปิดขายมานานย่านห้างจัสโก้ ซอยเสนานิคมตั้งแต่ปี 2535 โดยไม่มีชื่อร้าน มาถึงจุดอิ่มตัว ทำให้ลูกชาย ทนงศักดิ์ รุ้งวราห์รัตน์ หรือแบงก์ ที่เติบโตมากับขนมปังสอดไส้ คิดสานต่อ หลังจากเรียนจบมาทางด้านนิติศาสตร์ ยึดอาชีพทนายไม่กี่ปี ก็รู้สึกว่างงานด้านกฎหมายยังไม่ใช่งานที่ตนเองชอบ ดังนั้นจึงได้รวบรวมเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันคือ วุฒิเลิศ มีประถม หรือ อ้น และ นรงฤทธิ์ สมงาม หรือ จ้อย ออกมาทำขนมปังขาย ซึ่งในช่วงแรกยอมรับว่าไม่เคยคิดที่จะยึดอาชีพนี้อย่างจริงจัง แต่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสการทำขนมปังอย่างจริงจังก็รู้สึกชอบ เพราะได้ลงมือบริหารธุรกิจด้วยตัวเองในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะด้านการผลิต การทำการตลาด การบริการลูกค้า และการได้คิดสูตรไส้ของขนมปังใหม่ๆ ออกมาให้กับลูกค้าได้ลิ้มลอง
“เมื่อผมได้รวบรวมเพื่อนที่สนใจมาทำขนมปังด้วยกัน จึงเปิดสาขาแรกที่ย่านเกษตรนวมินทร์ ซอยมัยลาภ ตอม่อที่ 138 ซึ่งผลก็ตอบรับก็เป็นที่น่าพอใจ ลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อไปรับประทานเองและเป็นของฝาก ทำให้พวกเราขยายสาขาอีก โดยเน้นทำเลที่เป็นย่านคนขับรถผ่าน และจอดรถบริเวณหน้าร้านได้สะดวก ซึ่งถือเป็นลูกค้าเป้าหมายของเรา ทำให้ในปัจจุบันมีสาขาเพิ่มอีก 3 สาขา คือ ห้าแยกวัชรพล, ทาวน์ อิน ทาวน์ เลียบทางด่วน รามอินทรา-เอกมัย และตรงข้ามอาคาร SCB PARK รัชโยธิน”
สำหรับชื่อร้าน “ปังเว้ย...เฮ้ย!!!” ที่ใครเห็นแล้วต้องเหลียวมองว่าขายอะไรนั้น เกิดจากแนวความคิดของหุ้นส่วนที่เป็นผู้ชาย 3 คน ว่า ไม่ต้องการให้ชื่อแบรนด์สื่อถึงความเป็นขนมปัง หรือเบเกอรี่ จนเกินไปนัก และไม่ต้องการซ้ำกับใคร ซึ่งชื่อต้องสื่อถึงความเป็นคนรุ่นใหม่ และเป็นผู้ชาย สุดท้ายจึงมาลงตัวที่คำว่า เว้ย...เฮ้ย เนื่องจากเป็นคำอุทานที่ผู้ชายส่วนใหญ่มักใช้กัน และโดนใจหุ้นส่วนทั้ง 3 คน
ในขณะที่รสชาติของขนมปังก็ไม่น้อยหน้า สมราคา และคุณภาพ คือ เนื้อแป้ง อบสดจากเตาทุกวัน ราคาเพียงชิ้นละ 20 บาทเท่านั้น แต่อัดเน้นไปด้วยไส้ของขนมปัง ที่ใส่ลงไปแบบไม่หวงไส้ รวมกว่า 14 ไส้แล้ว ที่ 3 หนุ่มช่วยกันคิดขึ้น เช่น ไส้มะพร้าวอ่อน (ขายดี), หมูแดงเห็ดหอม, ไก่กุ้งเห็ดหอม, สังขยา, ผลไม้รวม, หมูหยองน้ำพริกเผา, และล่าสุดเปิดตัวไส้เบคอนมายองเนสออริกาโน่ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดีจากลูกค้า
ในขณะที่รสชาติของขนมปังก็ไม่น้อยหน้า สมราคา และคุณภาพ คือ เนื้อแป้ง อบสดจากเตาทุกวัน ราคาเพียงชิ้นละ 20 บาทเท่านั้น แต่อัดเน้นไปด้วยไส้ของขนมปัง ที่ใส่ลงไปแบบไม่หวงไส้ รวมกว่า 14 ไส้แล้ว ที่ 3 หนุ่มช่วยกันคิดขึ้น เช่น ไส้มะพร้าวอ่อน (ขายดี), หมูแดงเห็ดหอม, ไก่กุ้งเห็ดหอม, สังขยา, ผลไม้รวม, หมูหยองน้ำพริกเผา, และล่าสุดเปิดตัวไส้เบคอนมายองเนสออริกาโน่ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดีจากลูกค้า
“การที่เราตั้งราคาอยู่ที่ 20 บาททุกไส้นั้น เป็นกลยุทธ์การตั้งราคาแบบเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา คือ เริ่มหันมามองตัวเราเองกับเงิน 20 บาท หากได้รับประทานขนมปังที่อัดแน่นไปด้วยไส้ทั้งคาวและหวานนั้น เราจะควักเงินซื้อไหม แต่หากราคาเพิ่มเป็น 30 บาท การตัดสินซื้อจะยากกว่าหรือไม่ เมื่อพิจารณาดูแล้ว พวกเราจึงคิดว่าราคา 20 บาท ถือเป็นราคาที่เหมาะสมที่สุด เพราะจะทำให้ร้านขนมปังของเรามีลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกเพศทุกวัย ซึ่งก็ตรงตามที่ติดไว้ โดยที่ผ่านมามีลูกค้าตั้งแต่ผู้ใช้แรงงานที่มีรายได้น้อย และคนทำงานระดับผู้บริหารก็มาอุดหนุน”
แม้จะเป็นเพียงร้านขายขนมปังที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็ให้ความใส่ใจในเรื่องของการทำการตลาดไม่เสียชื่อที่เป็นธุรกิจของคนรุ่นใหม่ ไฟแรงจริงๆ ที่มีการทำโบว์ชัวร์แจกให้ผู้คนย่านนั้น และไม่ได้เป้นเพียงการแจกโบว์ชัวร์ธรรมดา แต่ทำการจ้างพริตตี้สาวสวย มายืนคอยโปรโมทร้าน ซึ่งถือว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ได้ผลตอบรับ ลูกค้ารู้จักสินค้า และร้านเร็วขึ้น พร้อมเปิดใจที่จะอุดหนุนลิ้มลอง ส่งผลให้เกิดกระแสการบอกต่อปากต่อปาก ที่เหมาะสมกับการประชาสัมพันธ์ธุรกิจประเภทอาหารได้อย่างตรงจุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ของร้านที่ว่า “อร่อยถูกปาก ของฝากถูกใจ”
Tel.08-1376-5050, 081-802-5341
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น