“Din Restaurant and Jazz Bar”...แจ๊สบาร์สุดชิลย่านเสาชิงช้า

ดื่มด่ำบรรยากาศย่านเก่า เคล้าเสียงเพลงแจ๊สที่ “Din Restaurant and Jazz Bar” อร่อยกับอาหารไทยแบบรสมือแม่ สุดชิลกับแจ๊สบาร์ยามค่ำคืน

“ถนนดินสอ” ย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งย่านที่มีของอร่อยๆ ให้ชิมมากมายตั้งแต่เช้าถึงดึก และหนึ่งในร้านสวยอาหารอร่อยบนนถนนดินสอแห่งนี้ก็คือ “Din Restaurant and Jazz Bar”
“Din Restaurant and Jazz Bar” ตั้งอยู่ภายในโรงแรมบ้านตึกดิน โรงแรมสุดเก๋ในย่านเสาชิงช้าซึ่งตัวร้านอาหารนั้นจะแบ่งออกเป็นทั้งโซนบาร์ และโซนที่นั่งทานอาหาร บรรยากาศนั่งสบายๆ

 แต่ก่อนจะเข้าไปในร้านอาหารกันนั้น ตรงบริเวณทางเข้า ซึ่งเป็นล็อบบี้ของโรงแรมด้วย จะมีร้านกาแฟเล็กๆ ที่ชื่อ “Shaloba” อยู่ทางขวามือ
คอนเซ็ปต์ของ Shaloba เป็น Sand Coffee จากตุรกี ก็คือวิธีการทำกาแฟแบบหนึ่ง โดยจะต้มกาแฟในหม้อ ที่ตั้งอยู่บนทรายร้อน 200 องศา ตัวทรายนำเข้าจากประเทศแถบตะวันออกกลาง เป็นทรายละเอียดที่ผ่านกระบวนการพาสเจอไรส์แล้ว ส่วนวิธีการชงมีการชั่งตวงวัดเพื่อให้ได้มาตรฐานเท่ากันทุกแก้ว ลูกค้าสามารถเลือกเมล็ดกาแฟเองได้ นำไปต้มจนเดือด ก่อนจะกรองกากกาแฟออกด้วยฟิลเตอร์

และนอกจาก Sand Coffee ที่นี่ก็ยังมีแบบกาแฟดริป และ French Press อีกด้วย
ชิมเมนูซิกเนเจอร์ Before Sunrise (160 บาท++) แก้วนี้ใช้เมล็ดกาแฟเอธิโอเปียนำไปเบลนด์กับชาเอิลเกรย์ ที่จะได้ทั้งรสชาติของกาแฟหอมกรุ่น ผสมผสานไปกับกลิ่นชาอ่อนๆ เสิร์ฟเป็นกาแฟเย็น

แต่ถ้าไม่ดื่มกาแฟก็ยังมีเครื่องดื่มอร่อยๆ อีกหลายแก้ว เช่น Sunstone (150 บาท++) เป็นชาไทยเข้มข้น ใส่ไซรัปบัตเตอร์สก็อต ทอปด้วยข้าวแต๋น Rosalie (150 บาท++) มีส่วนผสมของลิ้นจี่ กุหลาบ เลมอน และโซดา รสชาติหอมหวานอมเปรี้ยว

ย้ายเข้ามาในโซนร้านอาหารกันบ้าง ที่นี่จะเสิร์ฟอาหารไทยในสไตล์โฮมคุกกิ้ง แบบได้กินรสมือแม่ โดยเลือกเมนูเก่าๆ นำมาผสมผสานและประยุกต์ให้ได้ลิ้มลองความอร่อยกัน รวมไปถึงยังมีอาหารฝรั่งที่ประยุกต์ให้ถูกปากคนไทยด้วย
เริ่มจากเมนูเบาๆ หอยเชลล์ US อบเนยกระเทียม (380 บาท++) ใช้หอยเชลล์คัดไซส์พิเศษนำมาอบกับเนยแท้แบบพรีเมียม หอยสดอร่อย เนยหอมไม่เลี่ยน กินคู่กับขนมปัง ขาเป็ดรมควันทอด เสิร์ฟพร้อมซอสส้ม (450 บาท++) ใช้ขาเป็ดรมควันนำมาทอดจนด้านนอกกรอบ แต่ข้างในยังคงความนุ่มอร่อย เสิร์ฟคู่กับซอสส้มสูตรพิเศษ และมีสลัดผักสดออร์แกนิก

มาถึงอาหารไทยกันบ้าง แกงรัญจวนหมูตุ๋น (320 บาท++) แกงรัญจวนเป็นแกงโบราณที่หากินได้ยากหน่อย ที่นี่จะใช้หมูนำมาตุ๋นจนนุ่ม และปรุงแกงรัญจวนที่เป็นสูตรเฉพาะของที่นี่ มีความหอมกะปิ ตะไคร้ และสมุนไพรอื่นๆ รสชาติเข้มข้น

หมูเค็มต้มกะทิ (320 บาท++) เลือกใช้หมูแดดเดียวที่คัดมาอย่างดี นำมาต้มกับกะทิ ปรุงรสชาติออกหวานนิดๆ คล้ายกับหลน กินคู่กับผักสดและข้าวสวยร้อนๆ

จานนี้ กุ้งแม่น้ำทอดเกลือ เสิร์ฟพร้อมข้าวผัดมันกุ้ง (450 บาท++) เมนูซิกเนเจอร์ที่จะเลือกใช้กุ้งแม่น้ำสดๆ จากธรรมชาติ คัดมาอย่างดี นำมาทอดกับเกลือ ตัวมันกุ้งจะออกมาอยู่ในน้ำมัน และใช้มันกุ้งนำไปผัดกับข้าวหอมมะลิที่เสิร์ฟมาคู่กัน พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด และผักสด

เมนูอาหารของที่นี่มีให้เลือกอีกหลากหลาย และยังมีเมนูใหม่ๆ หมุนเวียนมาให้ชิมเสมอ ไม่ว่าจะเป็น สตูลิ้นวัวเสิร์ฟพร้อมมันบด (550 บาท++) ปลาแห้งแตงโม (280 บาท++) แกงส้มขาหมูคากิผักกาดดอง (350 บาท++) มัสมั่นไก่ (320 บาท++) เป็นต้น

ส่วนของหวานของที่นี่ก็จะเป็นสไตล์โฮมเมด ทำเองใหม่ๆ อย่างจานแรก พานาคอตต้า (195 บาท++) พานาคอตต้าเป็นกลิ่นวานิลลา เนื้อนุ่มเนียนกลิ่นหอม ซอสเป็นซอสเบอร์รี่ ที่เคี่ยวจากบลูเบอร์รี่และราสพ์เบอร์รี่ ใส่น้ำตาลเล็กน้อยและเคี่ยวจนข้นเป็นซอส

อีกจานคือ แอปเปิ้ลครัมเบิล (380 บาท++) ที่จะใช้แอปเปิ้ลเขียวนำมาเคี่ยว ทำให้มีความหวานซ่อนเปรี้ยว ด้านบนเป็นครัมเบิลให้ความกรุบกรอบ กินคู่กับซอสวานิลลาอุ่นๆ เข้ากันมากๆ

และที่นี่ จะเสิร์ฟน้ำแร่ VAVA (วาวา) น้ำแร่บริสุทธิ์ 100% จากแหล่งน้ำใต้ชั้นหินที่มีอายุหลายร้อยล้านปี ท่ามกลางธรรมชาติของผืนป่าเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี มรดกโลกทางธรรมชาติ UNESCO World Heritage ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ ดื่มง่าย เติมความสดชื่นในทุกครั้งที่ดื่ม ทั้งช่วยส่งเสริมรสชาติให้กับทุกเมนูอาหารทั้งคาวและหวาน สามารถจิบระหว่างรับประทานอาหารได้ โดยไม่ทำให้รสของอาหารจานหลักและรสสัมผัสของวัตถุดิบเปลี่ยน เพราะน้ำแร่วาวามีแร่ธาตุเป็นกลาง พร้อมการันตีคุณภาพด้านรสชาติน้ำแร่ในมาตรฐานสากลด้วยเชฟระดับโลก กับรางวัล Superior Taste Award 2023 จาก International Taste Institute กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม

นอกจากนี้ ในโซนของบาร์ จะเป็น Jazz Bar นั่งสบายๆ บริการเครื่องดื่มแบบฟูลบาร์ มีเครื่องดื่มคอกเทลซิกเนเจอร์ 12 เมนู และยังมีเมนูอื่นๆ ที่สามารถบอกกับบาร์เทนเดอร์ได้เลย ส่วนเมนูมอกเทล ก็มีแก้วซิกเนเจอร์ชวนชิมดื่มแล้วสดชื่น เช่น Poison Ivy (280 บาท++) เป็นไซรัปแตงโม น้ำส้ม แอปเปิ้ล มะนาว แต่งกลิ่นด้วยไซรัปหมื่นลี้ ทอปด้วยโซดา

Butterfly Effect (280 บาท++) แก้วนี้เน้นที่ผลไม้สด ลิ้นจี่ เงาะ นำมาปั่นเป็นซอส ใส่ไซรัฟลิ้นจี่ แต่งด้วยไซรัปเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ ทอปด้วยจินเจอร์เอลโซดา a la belleza (280 บาท++) ใช้ชามาเต ที่เป็นชาพื้นฐานของแถบอเมริกาใต้ แต่กลิ่นด้วยไซรัปดอกไม้ มีน้ำสมุนไพรไทยๆ ใส่เลมอน และทอปด้วยน้ำกระเจี๊ยบ

และในโซน Jazz Bar ทุกวันพฤหัสบดี-เสาร์ จะมีวงดนตรีแจ๊สเล่นสด ตั้งแต่เวลา 20.00-23.00 น. เล่นเพลงแจ๊สหลากหลายสไตล์ สามารถติดตามรายชื่อศิลปินที่จะมาเล่นสดได้ที่หน้าเพจของทางร้าน
* พิกัด : ตั้งอยู่ภายในโรงแรมบ้านตึกดิน ถนนดินสอ เขตพระนคร กทม. 
* เปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 11.00-24.00 น. (Last Order 21.30 น.) โซนบาร์เปิดบริการ 17.00-24.00 น. 
* “Shaloba” เปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 08.30-17.00 น. (Last Order 16.30 น.)
* สามารถจอดรถได้ด้านข้างโรงแรม (เป็นที่จอดรถเอกชน ค่าจอดชั่วโมงละ 40 บาท)
* โทร. 09-8634-2666 
* Facebook : Din Restaurant and Jazz Bar

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

“Cheals Bar”…บาร์ rooftop เปิดใหม่ มู้ดดี สนุกอารมณ์ ปักหมุดที่แฮงค์เอาท์ใหม่ ณ ซอยอารีย์

L-Seven Café & Bar… บาร์ลับ ๆ ย่านนานา

❤️THE DAY OF JIN & Shutt ❤️ ขาร็อคก็หวานเป็น❤️ชัช บอดี้แสลม