อลังการความงดงาม’หินงอกหินย้อยในถ้ำ’แหล่งเที่ยวแห่งใหม่ที่อำเภอจอมบึง
นายประทีป เหิมพยัคฆ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ลงพื้นที่ตรวจสอบถ้ำเปิดใหม่บริเวณสำนักสงฆ์พุทธสันติธรรม หมู่ 16 บ้านหนองตาอ้น ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่บริเวณเขตแนวป่าชุมชน มีพระสต๊อป สติปัญโญ หัวหน้าสำนักสงฆ์พุทธสันติธรรม พร้อมลูกศิษย์พาคณะเจ้าหน้าที่เดินเท้าขึ้นไปสำรวจระยะทางเกือบ 200 เมตร จึงถึงบริเวณปากทางเข้าถ้ำ มีลักษณะสภาพเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ มีพระสงฆ์เข้าไปปักกรดนั่งปฏิบัติธรรม
มองไปรอบทั่วผนังถ้ำ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำไฟฉายส่องไปพบความเปล่งประกายของแท่งหินย้อยที่ขาวโพลน ยังพบว่ามีสภาพน้ำหยดถ้ำเป็น ที่ยังมีชีวิตอยู่ มีรูปร่างงดงามแปลกตา เช่น รูปศิวลึงค์ รูปดอกเห็ด รูปหยดน้ำ รูปสายธารน้ำตกเป็นริ้ว ๆ ที่งดงามขาวสะอาด และได้ยินเสียงน้ำหยดจากหินงอกหินย้อยตามจุดต่าง ๆ
มีอากาศถ่ายเทค่อนข้างสะดวก แต่ไม่ควรเข้าไปอยู่เกิน 10 คนจากการสำรวจไปรอบ ๆ พบว่าบางจุดหินงอกหินย้อยถูกของมีคมลักษณะใบเลื่อยแอบตัดออกไป คาดว่าอาจจะนำไปทำเครื่องรางของขลัง
นายประทีป เหิมพยัคฆ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) กล่าวว่า ทางสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 ราชบุรี มีหน้าที่ดูแลป่าไม้หลายประเภท ซึ่งพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ป่าชุมชนบ้านหนองตาอ้น หมู่ 16 อยู่ติดเขตที่เป็นสำนักสงฆ์ ได้ยื่นขอใช้พื้นที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแล้ว
จากการลงพื้นที่ดูถ้ำที่อยู่ติดบริเวณป่าชุมชนติดเขตสำนักสงฆ์ครั้งนี้ เพื่อจะได้ร่วมกันดูแลรักษาอนุรักษ์ถ้ำเหล่านี้ไว้ให้อยู่ตลอดไป สังเกตว่าก่อนหน้านี้ถ้ำยังไม่ได้มีการดูแลโดยผู้ใด อาจจะมีคนเข้าไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของชุมชน กลุ่มคนบางประเภท วันนี้ได้มาพบกับสำนักสงฆ์ คณะกรรมการวัด มีความเห็นร่วมกันว่าควรมีการดูแลอนุรักษ์ถ้ำไว้
เบื้องต้นคงต้องประสานงานกับกรรมการป่าชุมชน ซึ่งมีกรรมการป่าชุมชนร่วมกับสำนักสงฆ์ ดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิด รวมถึงการกำหนดข้อบังคับ ข้อห้ามการเข้าไปในถ้ำเพื่อดูแลรักษาและให้ทางป่าชุมชนจัดประชุมคณะกรรมการป่าชุมชนและออกกฎระเบียบในการดูแลรักษาพื้นที่นี้ต่อไป
จากการสำรวจด้านในพบยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ยังจัดว่าเป็นถ้ำที่เป็นอยู่ คือ ยังมีหินงอกหินย้อยที่เกิดจากธรรมชาติ เป็นถ้ำหินปูนชนิดหนึ่งที่มีอยู่ใน จ.ราชบุรี สังเกตว่ายังไม่ค่อยมีการถูกรุกรานเหมือนกับถ้ำอื่น ๆ ที่ได้เคยพบเห็นทั่วไป และยังคงพบมีอีกหลายถ้ำที่อยู่บริเวณนี้ ซึ่งจะได้สำรวจดูแลร่วมกัน หลังจากนี้จะร่วมกับกรรมการป่าชุมชนจัดประชุม อาจจะต้องรบกวนเจ้าสำนักสนับสนุนเรื่องการทำป้ายแจ้งเตือน รวมถึงการกำหนดเวลาเข้า-ออก ากถ้ำ เพื่อความปลอดภัย อนาคตมองว่า ถ้ำนี้อาจจะเป็นอันซีนใหม่อีกแห่งของ จ.ราชบุรี โดยราชบุรีเป็นเมืองรองด้านการท่องเที่ยว มองว่าน่าจะส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้มาท่องเที่ยวปฏิบัติธรรม เพื่อให้จิตใจผ่องใสและยังได้สัมผัสธรรมชาติควบคู่ไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะการสำรวดถ้ำ ยังพบสัตว์เลื้อยคลานที่มีรูปร่างแปลกประหลาด ตัวเล็ก หัวโต ลำตัวยาว สีขาวล้วน คล้ายกับตระกูลกิ้งกือร้อยขาจำนวนมากคลานอยู่บริเวณพื้นดินภายในถ้ำแต่ไม่ดุร้าย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น