‘LV THE PLACE BANGKOK’ มิติใหม่ของ ‘หลุยส์ วิตตอง’

วันนี้มีโอกาสสัมผัสกับ LV THE PLACE BANGKOK เริ่มที่จุดแรก LE CAFÉ LOUIS VUITTON ชิมขนมและเครื่องดื่มสุดพิเศษ ก่อน จากนั้น ไปชมการออกแบบดีไซน์ในจุดต่างๆโดยนักออกแบบชาวไทย เริ่มที่ คุณป้อ-ศิริยศ ชัยอำนวย สถาปนิกแห่ง Onion

ออกแบบปราสาทด้านหน้า ผ่านจินตนาการของแสงออร่า เปล่งประกายจากมุมตึก ด้านนอกตกแต่งด้วยประติมากรรมรูปทรงเพชรขนาดใหญ่ที่ส่องแสงยามค่ำคืน จากนั้นไปดูการออกแบบของ


คุณมุก - เพลินจันทร์ วิญญรัตน์ นักอออกแบบฝีมือระดับต้นๆของเมืองไทย ที่ได้รับเลือกให้ทำโปรเจกต์ เพื่อออกแบบร้านและรังสรรค์งานอาร์ตให้กับ Louis Vuitton ในการออกแบบร้านอาหาร GAGGAN AT LOUIS VUITTON  จากนั้นไปชม THE STORE รีเทลสโตร์ภายใน LV The Place Bangkok เป็นการผสมผสานดีไซน์โก้หรูเข้ากับการตกแต่งที่มีชีวิตชีวา และ VISIONARY JOURNEYS

หลุยส์ วิตตอง พาเราออกเดินทางสู่ LV The Place Bangkok ณ ศูนย์การค้าเกษรอัมรินทร์ จุดหมายแห่งใหม่ล่าที่รวมคอนเซ็ปต์ครบทุกประสบการณ์ภายในพื้นที่เดียวกัน ตั้งแต่งานนิทรรศการ คาเฟ่ รีเทลสโตร์ และร้านอาหารโดยเชฟชื่อดัง Gaggan Anand พร้อมทั้งดีไซน์สถาปัตยกรรมที่เป็นแรงบันดาลใจ และการตกแต่งสวยงาม ตลอดจนเมนูต่างๆที่รังสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะ

คอนเซ็ปต์สโตร์ใหม่แห่งนี้ พร้อมแล้วที่จะต้อนรับผู้มาเยือนเพื่อพาไปค้นพบจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด และความคิดสร้างสรรค์ในโลกของ ‘หลุยส์ วิตตอง’

ซึ่ง LV The Place ครอบคลุมพื้นที่สองชั้นภายในตึกบนทำเลถือว่าล้ำค่าใจกลางกรุงเทพมหานคร เมื่อผ่านมาในย่านราชประสงค์ก็จะเห็น แสงออร่าดุจเพชรเปล่งประกายออกมาจากมุมตึก เพราะด้านนอาคารจะตกแต่งด้วยประติมากรรมรูปทรงแบบเพชรขนาดใหญ่ที่ส่องแสงสวยงามในยามค่ำคืน ส่วนด้านในได้รวบรวมหลากหลายรูปแบบประสบการณ์ ทั้ง รีเทล อาหาร และเรื่องราวของวัฒนธรรม

คุณป้อ-ศิริยศ ชัยอำนวย สถาปนิกแห่ง Onion เล่าว่า ที่ตั้งของ LV The Place Bangkok เป็นใจกลางของย่านราชประสงค์ ซึ่งมีผู้คนเดินทางผ่านไปมาจำนวนมาก เขาออกแบบให้ดึงดูดสะดุดตาผู้คนที่สัญจรผ่านมาแถวนั้นโดยไม่ว่าจะขับรถมา เดินบนถนน หรือเดินบนทางเดินลอยฟ้า และโดยสารอยู่บนรถไฟฟ้า BTS

“ผมทำไว้ 3 เลเยอร์ เดินผ่านมาหรืออยู่บนถนนก็เห็น เดินบนสกายวอล์คก็เห็น จากรถไฟฟ้าก็เห็น สิ่งที่เราอยากทำคือ ให้ปราสาทเราสะดุดตาคนที่ผ่านไปมาได้  อันดับแรกเลยเราก็หา Inspiration  คิดว่าการจัดดอกไม้ของไทยมีเอกลักษณ์ เมื่อเทียบกับทั่วโลก ก็เลยเอาตัวพานพุ่มมาเป็นแรงบันดาลใจ

การจัดพานพุ่มเราต้องการให้กับคนที่เรา Respect เช่นครูบาอาจารย์ วิธีการก็คือเอาดอกไม้เล็กๆค่อยๆเรียงๆให้เป็นระเบียบ ประณีตบรรจง การนำดอกไม้ทีละดอกมาวางด้วยความตั้งใจอย่างละเอียด ก็คือความLuxury ปราสาทข้างนอกที่เป็นตัวเพชร เราเอามาจาก LV Monogram ถ้ามองดูจะเห็นว่าเป็นดอกไม้เล็กๆ ปักลงไป

เอฟเฟคของเขาน่าสนใจมาก เวลากลางคืน จะเกิด มอเร่เอฟเฟค แสงสะท้อนวาวๆ ตามความโค้งนูน เป็นประกายดาว ปลายของเพชรเราจะใช้กระจกเกรียบ แบบที่ติดตามวัด กลางวันจะสะท้อนแสงแดด แค่รถไฟฟ้าผ่านก็จะเห็นแสงระยิบระยับ”

จากนั้นเราเดินขึ้นไปยังชั้น 2 ของ LV The Place Bangkok ก็จะพบกับ Gaggan at Louis Vuitton  และ รีเทลสโตร์ ที่มีความแตกต่างจากที่อื่น มีความเป็น ไลฟ์สไตล์ มากขึ้น มีผลิตภัณฑ์ของผู้ชายและผู้หญิง รวมกัน เพื่อตอกย้ำความเป็นไลฟ์ไตล์ที่นี่จำหน่ายทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ แก้วน้ำ ฯลฯ


รวมทั้งมีสินค้าที่ผลิตขายเฉพาะ Louis Vuitton  ในเมืองไทยเท่านั้น เป็นรองเท้าสนีคเกอร์สุภาพบุรุษ LV Trainer Upcycling ดีไซน์อย่างมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครวางจำหน่ายเฉพาะที่นี่เพียงแห่งเดียวในโลก และมีแค่  85 คู่เท่านั้น

คุณมุก- เพลินจันทร์ วิญญรัตน์ มีส่วนร่วมในการออกแบบอาทิ พรม โคมไฟ ห้องPrivate Dining ในห้องอาหาร Gaggan at Louis Vuitton นับเป็นร้านอาหารร้านแรกของเมซงในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยมีเชฟอินเดียผู้มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง Gaggan Anand มาสร้างสรรค์ประสบการณ์ในการรับประทานอาหาร ทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น

เรียกได้ว่าวันนี้รู้สึกตื่นเต้นที่ได้สัมผัสกับการเดินทาง ที่ต้อนรับด้วยทรังก์อันเป็นสัญลักษณ์เรียงต่อกันเป็นรูปปิระมิด ก่อนจะนำไปสู่ห้องโถงตกแต่งผนังด้วยแท่งเรซินดีไซน์โดย Draga & Aurel โคมไฟดอกไม้โมโนแกรม และเชือกขึงตกแต่ง ร้านอาหารแบบไฟน์ไดนิ่งใช้โต๊ะรับประทานอาหารทำด้วยหินอ่อนจากอิตาลี สามารถรองรับแขกได้ 10 โต๊ะ

พร้อมทั้งนำเสนอเมนูประจำซีซั่นที่รังสรรค์พิเศษให้กับหลุยส์ วิตตอง ภายใต้คอนเซ็ปต์ 5 S ได้แก่ Sweet, Sour, Salty, Spicy และ Surprise ตั้งแต่เมนู

ล็อบสเตอร์กับซอสที่ได้แรงบันดาลใจรสชาติแบบไทย ไปจนถึงสูตรเมนูเห็ดในแผ่นแป้งที่มีแรงบันดาลใจจากแพทเทิร์น Damier โดยส่วนผสมแต่ละชนิดจะเป็นดาวเด่นที่นำเสนอผ่านเมนูในแต่ละจาน 

การสร้างสรรค์ผลงานจากศิลปินทั้งภายในประเทศและระดับนานาชาติเพื่อจัดแสดงภายในพื้นที่ร้านทั้งหมด ถือเป็นการรวบรวมคอนเซ็ปต์จากสีสันความมีชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ ผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมต่างๆ เพื่อให้ LV The Place Bangkok เป็นพื้นที่ไลฟ์สไตล์ระดับโลกซึ่ง

หลุยส์ วิตตอง มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ โดยนำเรื่องราวของวัฒนธรรมในมุมกว้างรวมอยู่ภายในร้านนี้เพียงแห่งเดียว จึงกล่าวได้ว่าคอนเซ็ปต์สโตร์ที่ศูนย์การค้าเกษรอัมรินทร์แห่งนี้ได้สร้างแม่พิมพ์บทใหม่ให้กับร้านหลุยส์ วิตตองแห่งต่อๆไปในอนาคต

สำหรับ ห้องนิทรรศการ Trunkscape จะเล่าเรื่องตั้งแต่จุดเริ่มต้นแห่งการเดินทางโดยนำทรังก์ 96 ใบมาเรียงต่อกันราวกับอุโมงค์ทางเดินที่ทอดยาวไปสู่เรื่องราวงานฝีมือและนวัตกรรม

ห้องแรกคือการนำเสนอภายใต้ธีม Origins ซึ่งมีไฮไลท์ที่การอุทิศให้กับเรื่องราวของตระกูลวิตตอง โดยจัดเป็นแท่นแสดงคลังเก็บเรื่องราวที่อยู่รอบด้าน และชิ้นงานที่เป็นแรงบันดาลใจ รวมทั้งดีไซน์ต่างๆในยุคแรก รูปแบบของทรังก์ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19

แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการรังสรรค์ทรังก์และบรรจุสิ่งของต่างๆ ส่วนตัวอย่างของโมโนแกรมแคนวาสหลากหลายรูปแบบที่พัฒนามาหลายทศวรรษ บ่งบอกถึงความต่อเนื่องและนวัตกรรมของแบรนด์อันไม่หยุดนิ่ง

ห้องต่อมา Iconic Bags จัดแสดงเพื่อเฉลิมฉลอง 25 ปี ในประวัติศาสตร์แฟชั่นของหลุยส์ วิตตอง ถ่ายทอดเรื่องราวของดีไซน์กระเป๋าไอคอนิกทั้ง 5 รุ่น (Alma, Keepall, Speedy, Noé และ Petite Malle) ซึ่งนำกลับมาตีความใหม่โดยผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ตั้งแต่มาร์ค จาคอบส์, คิม โจนส์, นิโกลาส์ เฌสกิเยร์, เวอร์จิล อาโบลห์ และฟาเรลล์ วิลเลียมส์ ที่แสดงวิสัยทัศน์ความก้าวล้ำของสไตล์และความเชี่ยวชาญด้านงานฝีมือ รูปทรงและเอกลักษณ์ของกระเป๋าไอคอนิกซึ่งมีความสำคัญต่อเมซงถูกนำเสนอผ่านกระเป๋า 21 ใบ พร้อมเสื้อผ้า 2 ลุค จัดแสดงภายในลูกบอลอะคริลิกใสทรงกลม 19 ลูก

เพื่อขับเน้นให้เห็นวิสัยทัศน์บนผลงานของดีไซเนอร์ต่างๆอย่างชัดเจน ส่วนห้องสุดท้าย Collaborations พาไปค้นพบความสัมพันธ์กับเหล่าศิลปินที่รังสรรค์ให้เกิดผลงานกระเป๋าที่ได้รับความนิยมและเป็นที่จดจำสูงสุดจากการตีความของสตีเฟน สเปราส์, ริชาร์ด ปรินซ์,

ทากาชิ มุราคามิ หรือยาโยอิ คุซามะ โดยนำผลงานดั้งเดิมทั้ง 7 ชิ้น มาเป็นตัวแทนสะท้อนความร่วมมือและศักยภาพอันไร้ขีดจำกัด ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นจอสกรีนแอนิเมชั่นครึ่งวงกลมฉายแพทเทิร์นงานของศิลปินแต่ละคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวลงบนฉากหลังซึ่งเป็นกระเป๋าชุบโครมจำนวน 184 ใบ นอกจากนี้ผู้มาร่วมชมงานนิทรรศการจะได้พบกับห้อง Giveaway Room ที่ชวนทำกิจกรรมเพื่อรับของที่ระลึกเป็นการขอบคุณในการเข้าชมมีทั้งดินสอหลุยส์ วิตตอง กระเป๋าผ้า โปสการ์ด สนุกสนานกันไป

น้องวิเวียน ถูกสร้างจากโมทีฟหลังจากลายโมโนแกรมของแบรนด์ ส่วนหัวจะเป็นรูปดอกไม้สี่กลีบประกอบอยู่บนใบหน้าทรงกลม ดวงตาหนึ่งข้างของน้องวิเวียนจะเป็นรูปดาวสี่แฉกเป็นลายโมโนแกรม Louis Vuitton

LV The Place Bangkok  อยู่ที่ ศูนย์การค้าเกสรอัมรินทร์ ชั้น G - ชั้น 2 เลขที่  496-502 ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ  โทร. 1800-01-1112

เวลาเปิดทำการ :

Le Café:              10:00 น.  – 20:00 น.

Exhibition:         10:00 น. – 20:00 น.

Retail:   10:00 น. – 20:00 น.

Restaurant:        12:00 น. – 23:00 น.  (ปิดวันอังคารและวันพุธ)

Website: LV The Place Bangkok | LOUIS VUITTON

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

“Cheals Bar”…บาร์ rooftop เปิดใหม่ มู้ดดี สนุกอารมณ์ ปักหมุดที่แฮงค์เอาท์ใหม่ ณ ซอยอารีย์

L-Seven Café & Bar… บาร์ลับ ๆ ย่านนานา

บาร์น้องใหม่สุดคูล “SEE You Ekkamai”