‘La Braci’ ไฟน์ไดนิ่ง เทรนด์ใหม่ ตื่นตาตื่นใจกับ Oyster Flambéed ไฟลุกโชน


‘La Braci’ ร้านอาหารสไตล์ ไฟน์ไดนิ่ง เปิดใหม่…ร้านนี้เน้นเทคนิคการปรุงอาหารจากไฟฟืน ตื่นตาตื่นใจกับเมนู Oyster Flambéed ใช้เทคนิคปรุงอาหารแบบดั้งเดิมของยุโรป Flambadou น่าประทับใจ
.
La Braci  ร้านอาหารเทรนด์ใหม่ ในคอนเซปต์ “แคชชวลไฟน์ไดนิ่ง” ร้านนี้อยู่ที่ชั้นลอยของตึก One City Centre ใจกลาง ย่านเพลินจิต (ตรงข้ามเซ็นทรัล เอ็มบาสซี) นำเสนอ ความอร่อย ของอาหารตะวันตก หรูหราแบบ ไฟน์ไดนิ่ง ตอบโจทย์คนเมือง เดินทางสะดวกไม่ไกลจากสถานี BTS เพลินจิต
สัมผัสร้านครั้งแรก ประทับใจในทุกๆ อย่าง ตั้งแต่การออกแบบสภาพแวดล้อมของ  อาคาร ให้ความรู้สึกราวกับว่าเรากำลังอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ภายในร้านตกแต่งแบบโมเดิร์น ผสมผสานกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน
.
ทางเจ้าของร้านอธิบายว่า เขาต้องการให้เสมือนเราอยู่ในถ้ำหิน เน้นเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นโทนสีของไม้ ให้ความรู้สึกหรูหราและผ่อนคลายไปพร้อมๆกัน รองรับลูกค้าได้เพียง 50 ที่นั่งเท่านั้น
.
สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างก็คือ ที่ La Braci แห่งนี้เขาเน้นเทคนิคการปรุงอาหาร โดยการใช้ไฟจากฟืน หมูหวานชวนชิม นั่งอยู่ตรงหน้าเตาไฟพอดี ได้ชมการทำงานของเชฟอย่างใกล้ชิด เพลิดเพลินมากๆ  ทางทีมงานของเชฟถามว่านั่งตรงนี้ร้อนไหม? ตอบได้เลยว่าไม่ร้อน เนื่องจากแอร์ของทางร้านเย็นฉ่ำได้ใจ
คิดว่า รร้านอาหารแห่งนี้เหมาะสำหรับทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นมื้อพิเศษสำหรับครอบครัว, การพบปะเพื่อนฝูง, หรือดินเนอร์สุดโรแมนติก ทางร้านให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเอง
.
ที่นี่…การออกแบบครัวระบบเปิด สามารถมองเห็นการทำงานของเชฟและทีมงาน เห็นเรื่องราวกระบวนการสร้างสรรค์เมนูของแต่ละจาน พร้อมทั้งสัมผัสกลิ่นหอมอันยั่วใจจาก เตาฟืน  ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับอาหารแต่ละเมนู
นั่งยิ้มกับบรรยากาศ มองเห็นหนึ่งในเชฟเจ้าของร้าน กำลังทำ Oyster Flambéed  อยู่ตรงหน้า รู้สึกว๊าวมากๆ เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่โดดเด่น ด้วยการใช้เทคนิคปรุงอาหารแบบดั้งเดิมของยุโรป Flambadou
.
เชฟจะเผาโลหะทรงกรวยจนร้อนจัด และเติมไขมันลงไปให้หลอมละลาย แล้วหยดลงบนลงบนหอยนางรมสด ความร้อนจะช่วยให้หอยนางรมสุกกำลังดี มีกลิ่นหอมของการย่างถ่านนิดๆ เพิ่มเสน่ห์ไม่เหมือนใครของเมนูนี้
แล้วยังมี ซอสครีมเบลอบล๊อง และน้ำมันต้นหอม เพิ่มลูกเล่นด้วย มะนาวคาเวียร์ ที่ให้รสเปรี้ยวสดชื่นในทุกคำ เสิร์ฟมาอย่างงดงามบนเปลือกหอย เป็นประสบการณ์ที่ทั้งอร่อยและตื่นตาตื่นใจในคราวเดียวกัน
.
มาพูดถึงเมนูจานหลักกันบ้าง นั่งมองเชฟย่างเนื้อไฟลุกโชนตั้งแต่แรก พออาหารจานหลักอย่าง Wood-Fired Australian Wagyu Angus Beef Flank มาเสิร์ฟ โอ้โห....ได้ลิ้มรสชาติของอาหารที่ถูกใจ
.
ทีเด็ดของอาหารจานนี้อยู่ที่ความหอมของถ่านไม้ ที่ทางร้านใช้นำมาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ โดยจานนี้เสิร์ฟคู่กับหอมผัดคาราเมลที่ใช้ขั้นตอนการทำที่พิถีพิถัน และยังมีบร็อกโคลีนี ที่ย่างเกรียมตัดรสเข้มข้นของเนื้อวัว
.
ที่จะขาดไปไม่ได้คือ Rof Emulsion สูตรของทางร้านเองซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากซอส chimichurri ของแอฟริกาตะวันตก เพื่อเติมกลิ่นหอมสดชื่นของสมุนไพร ช่วยปรับสมดุลให้กับความเข้มข้นของวากิวและทำให้จานนี้ครบรส
.
ใครไม่ทานเนื้อขอนำเสนอ อาหารทะเลจานกุ้งแทน  Wood Fire Giant River Prawn เป็นกุ้งแม่น้ำเนื้อแน่นเด้งมันเยิ้มเพิ่มรสชาติด้วย และซัลซ่ามะเขือเทศเปรี้ยวสดชื่น พร้อมโรย wolffia หรือผำ ที่หาทานยาก เพิ่มเทกซ์เจอร์ในทุกคำ l
.
แล้วมาต่อกันด้วยเมนูแชร์สุดครีเอทีฟ นั่นก็คือ Charred Baby Squid Potato Dumplings เป็นปลาหมึกกระดองย่างไฟหอมกรุ่นเนื้อหวานฉ่ำ เสิร์ฟคู่กับดัมพลิงส์ที่ทำจากมันฝรั่งเนื้อนุ่มนวล ราดด้วย ซอสเลมอนแซฟฟรอนและน้ำมันดิลล์หอมละมุน และด้วยรสชาติความเปรี้ยวนิดๆของเลมอนครีมซอสทำให้ทุกสัมผัสรู้สึกถึงความสดชื่น
เปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน ด้วย พัฟโลวา  Pavlova  เมนูนี้ยังคงความคลาสสิก ในแบบของเมอแรงค์ที่กรอบนอกนุ่มในท๊อปด้วย คัสตาร์ดเสาวรสที่มาความเปรี้ยวสดชื่น เพิ่มมิติความอร่อยด้วยเนื้อเสาวรสสดอร่อยทุกสัมผัส
.
Sean Lai เชฟเจ้าของ ‘ร้าน La Braci’  กล่าวว่า “ปรัชญาการทำอาหารของเรา เกิดจากความเคารพอย่างลึกซึ้งต่อทั้งประเพณีและนวัตกรรม เราตั้งใจรังสรรค์ประสบการณ์การรับประทานอาหารสไตล์ไฟน์ ไดนิ่งแบบสบายๆ
.
แต่ทันสมัย เชิดชูเสน่ห์ดั้งเดิมของการปรุงอาหารด้วยไฟที่จุดจากไม้ที่ผสานกับเทคนิคสมัยใหม่ เป้าหมายของเราคือการส่งเสริมให้รสชาติตามธรรมชาติของวัตถุดิบที่เราคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันได้เปล่งประกายอย่างเต็ม
.
ภาคภูมิด้วยวิถีแห่งความซับซ้อน และละเอียดอ่อนที่ได้จากไฟ และควัน แต่ละจานเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนเพื่อรังสรรค์ประสบการณ์ที่น่าจะจดจำ”
เชฟเจ้าของร้านกล่าวสรุปว่า เขามีความตั้งใจว่า  La Braci  ไม่ได้เป็นแค่ร้านอาหารธรรมดา แต่ต้องการเป็นสถานที่ที่สร้างความรู้สึกพิเศษให้แก่ทุกท่านที่ให้เกียรติมาเยือน  หลงใหลในบรรยากาศและรสชาติของอาหาร ที่เขามุ่งเน้นการใช้ไฟสร้างรสชาติที่เลิศล้ำ และเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากัน ซึ่งไม่ได้มีแค่รสชาติ และกลิ่นหอมของการย่างด้วยไม้ฟืน แต่ยังยกระดับคุณภาพเกินความคาดหวังในราคาที่เข้าถึงได้อีกด้วย
.
ร้านอาหารแห่งนี้บริหารงานโดยเชฟเจ้าของร้าน Sean Lai และ วชิรวิทย์ ธนันต์รัตน์ (เชฟแบงค์) กรรมการบริษัทและผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ร่วมกับทีมเชฟชาวไทยฝีมือเยี่ยมเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การรับประทานอาหารเหนือระดับ
.
ความพิเศษของที่นี่ก็คือ นอกจากเชฟจะปรุงอาหารสดๆ ใหม่ๆ ให้เราได้เห็น ได้กลิ่น อยู่ตรงหน้าแล้ว เชฟยังเดินออกมาจากครัวเปิด และแนะนำเมนูที่ตนรังสรรค์ขึ้นให้กับเราโดยตรงอีกด้วย  ทำให้เราได้สัมผัสบรรยากาศที่เป็นกันเอง ท่ามกลางเปลวไฟอันอบอุ่น  
.
รับประทานอาหารด้วยกันอย่างเพลิดเพลิน ช่างเป็น ประสบการณ์ที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ใครต้องการสัมผัส อาหารสไตล์ ไฟน์ไดนิ่ง เทรนด์ใหม่ เน้นเทคนิคการปรุงอาหารจากไฟฟืน เชิญที่นี่ได้เลย
.
* ‘ร้าน La Braci’ เปิดบริการทุกวัน ที่ ชั้นลอยของอาคาร วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์ ( One City Centre ) ใจกลางย่านเพลินจิต (ตรงข้ามเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ไม่ไกลจากสถานี BTS เพลินจิต 
* Tel.095-868-6565

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เปิดใจ “ไอซ์ ปรีชญา” นิวเวอร์ชั่น! ปลดล็อกภาพนางเอก “เมร่อน” เปลี่ยนชีวิต!!

เมธาวลัย ศรแดง…อาหารไทยต้นตำรับของนักชิม

ภาพจริงในวันนี้....จากแหล่งโสเภณีในละคร "บางกอกคณิกา"